Thursday 13 June 2013

มือใหม่ในตลาดเลือด

ตอนนี้หุ้นตกหนัก ๆ มาหลายวันติด ๆ กันแล้ว (ตกแข่งกับฝน) จะไม่เขียนเกี่ยวกับหุ้นตกบ้างเดี๋ยวจะไม่ทันสมัย

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมาเป็นอย่างกราฟข้างล่างนี้ เปิดมาเมื่อวันจันทร์ก็ถล่มกันราบทีเดียว

ที่มา www.settrade.com



ตอนหุ้นตกหนัก ๆ อย่างนี้มือใหม่เป็นยังไงบ้าง... ? ก็เจ็บ เจ็บตัวกันถ้วนหน้า (ทั้งมือเก่ามือใหม่) เพราะมูลค่าตลาดของของที่มีในพอร์ทมันก็ลดลงตามราคาหุ้นที่ตกนั่นแหละ T_T มันก็แอบเหนื่อยบ้างเครียดบ้างอะไรบ้าง ต้องมาสะสมกำไรกันใหม่ แล้วก็ไม่รู้ว่ามันจะตกนานแค่ไหน แต่ไม่ถึงกับ Panic จริง ๆ เวลาแบบนี้ห้าม Panic เลยแหละ ทำอะไรต้องคิดดี ๆ เลยเชียว

แล้วทำยังไง ?

ก็ไม่ทำยังไงเพราะจะขายก็ไม่ไหว ตกซะขนาดนี้ จะซื้อก็ไม่มีตังค์ซื้อแล้ว ช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงเวลาของการเรียนรู้ภาคปฏิบัติ  คือ ทฤษกี ตำรา งานวิจัย หรือบทวิเคราะห์นี่ บางทีอ่าน ๆ ก็เหมือนจะเข้าใจบ้าง แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้จริง ๆ จะแจ่มแจ้งขึ้นมาเลยเชียว เป็นต้นว่า ก่อนหน้านี้ ตอนเริ่มเข้าตลาดใหม่ ๆ อ่านบทวิเคราะห์ที่พูดถึง Fund Flow ตอนนั้นอ่านแล้วก็ยังไงงง ๆ ว่ามันคืออะไร สำคัญยังไงเหรอ พอรอบนี้หุ้นตกเพราะต่างชาติเทขายเอาเงินกลับ เงินทุนไหลออกนี่ เข้าใจซาบซึ้งขึ้นมาทันทีว่า ไอ้ Fund Flow มันสำคัญยังไง (เพราะมันเล่นซะกระเทือนไปทั้งภูมิภาคเลย)

อย่างไรก็ตาม หุ้นตกรอบนี้เราก็ไม่เหงาเหมือนรอบก่อนที่ตกอยู่ประเทศเดียว เพราะมันตกกันหมด (มันดีหรือเปล่าเนี่ย) โดยเฉพาะในเอเชียที่ฝรั่งเริ่มขายเอาเงินกลับประเทศเพราะเศรษฐกิจสหรัฐทำท่าจะฟื้น (ไม่ได้วิเคราะห์เอง อ่านมา) เราก็ตกกันระนาว ไทย อินโด ฟิลิปปินส์ โดนหนักสุด

สิ่งที่เรียนรู้ก็มีหลาย ๆ อย่าง เช่น
  • การอ่านสภาพเศรษฐิกจในภาพรวมทั้งของโลกและของประเทศออกและคาดการณ์ได้นั้นเป็นเรื่องสำคัญ (และยาก) เพราะเวลาที่หุ้นตกเพราะสภาวะเศรษฐกิจนี่ หุ้นรายตัวถึงจะดีแค่ไหน มีข่าวดีออกมาเท่าไร ๆ โบรคเกอร์จะเชียร์ยังไง มันก็ขึ้นไม่ค่อยไหวหรอก เพราะแรงขายมันเยอะ แล้วพอคนยิ่งตกใจมันก็ยิ่งขาย ก็ยิ่งตกกันเข้าไปอีก แล้วก็การวิเคราะห์กลับไปย้อนหลัง มันก็เสียหายไปแล้วล่ะ คนที่ได้เปรียบคือคนที่คาดการณ์ได้และ take action ได้ก่อน เรียนรู้จากประสบการณ์นี่แหละ
  • กระสุนสำรอง.. หรือเงินสด เป็นสิ่งสำคัญเวลาตลาดผันผวน เพราะเวลาแบบนี้ หุ้นมันจะถูก แล้วถ้าเราซื้อเข้าไปก่อนหน้านี้จนหมด (เพราะคิดว่าถูกแล้ว และไม่คิดว่าจะถูกลงไปอีก) มันก็ได้แต่มองแหละ อารมณ์ประมาณว่า ไปช้อปเจอเสื้อถูกใจแต่ไม่มีตังค์ซื้อแล้ว อะไรอย่างนั้น ซึ่งตรงนี้มันก็เกี่ยวข้องกับการอ่านสภาวะตลาดกับการคาดการณ์ด้วยน่ะนะ ที่จะรู้ว่าช่วงไหนเราควรเตรียมเงินสดไว้บ้าง
  • การนั่งจ้องกระดานตลอดเวลา ไม่ทำให้อะไรดีชึ้น 5555 เพ่งแล้วท่องอยู่ในใจให้หุ้นขึ้นมันไม่ขึ้นหรอก เครียดเปล่า ๆ ด้วย แล้วมันอาจจะทำให้สับสนตามอารมณ์ตลาด ลงมือกระทำในสิ่งที่ไม่ได้วางแผนหรือคิดให้ดีได้ (อันนี้ทั้งขาขึ้นและขาลงก็เป็นได้หมด) ถ้าไม่ได้คิดว่าจะซื้อจะขายเนี่ย ก็รู้สึกว่าไปทำอย่างอื่น เช่น หาความรู้ อ่านหนังสือ อ่านข่าว ดีกว่า หรือถ้ายังอยากตามราคาเป็นระยะ ก็ตั้ง Alert เอา
  • ถ้าจะลงทุน ต้องทำใจว่ามันจะต้องเจอทั้งกำไรและขาดทุน และต้องอยู่กับมันให้ได้ ก็เหมือนทำธุรกิจอื่น ๆ  ที่ต้องเรียนรู้ แล้วก็พยายามแก้ปัญหาไป

ส่วนตอนนี้ก็รอ... รอให้เป็นวันของเรา อิอิอิ

No comments:

Post a Comment